ข่าวสาร
สาระน่ารู้
Category
แผ่นกรองอากาศ HEPA
Date : 17 มกราคม 2563
แผ่นกรองอากาศ HEPA หรือที่ย่อมาจากคำว่า “High Efficiency Particulate Air Filter”
Detail :

จัดเป็น แผ่นกรองอากาศคุณภาพสูง ทำมาจากเส้นใยไฟเบอร์กลาส (Fiberglass) ถักทอจนมีขนาดที่เล็กมากๆ จนมันมีความสามารถ ในของการกรองฝุ่นละอองขนาดเล็กมากๆ (Small Particles) ได้เป็นอย่างดีนั่นเอง

ตามมาตรฐานอุตสาหกรรม แผ่นกรองอากาศที่จะได้ชื่อว่าเป็นแผ่นกรองอากาศ HEPA นี้ จะต้องสามารถกรองฝุ่นละอองที่มีขนาดอนุภาคใหญ่กว่า 0.30 ไมครอน (μm) ได้ ซึ่งมาตรฐานนี้ถูกกำหนดขึ้นโดยกระทรวงพลังงานของประเทศสหรัฐอเมริกา (United States Department of Energy) เรียกได้ว่าเชื้อโรคไวรัส แบคทีเรีย ต่างๆ ที่ล่องลอยอยู่บนอากาศ ก็จะไม่สามารถเล็ดลอดผ่านแผ่นกรองออกไปข้างนอกได้ มีแต่เพียงอากาศ เท่านั้นที่สามารถผ่านแผ่นกรองอากาศ HEPA นี้ออกไปได้

และแน่นอน ถ้าขึ้นชื่อว่าเป็น แผ่นกรองอากาศ HEPA แล้วก็จะสามารถกรองฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ ฝุ่นละเอียดที่เล็กกว่า 2.5 ไมครอน (หรือฝุ่นละออง PM 2.5) ได้อย่างแน่นอน

โดย แผ่นกรองอากาศ HEPA ในปัจจุบัน ได้ถูกนำมาใช้กับในหลากหลายวงการ ไม่ว่าจะเป็น ใช้ภายในบ้าน ครัวเรือน ที่พักอาศัย ในออฟฟิศสำนักงาน แวดวงการขนส่ง ที่มีคนอยู่แออัดกันเยอะๆ อย่างบนเครื่องบินเป็นต้น ตลอดจน วงการแพทย์ ที่ต้องการความสะอาด เพื่อปลอดเชื้อโรคให้ได้มากที่สุดนั่นเอง
ในปัจจุบันนี้ เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ที่นิยมติดตั้ง แผ่นกรองอากาศ HEPA ภายในเครื่อง นั่นก็คือ เครื่องฟอกอากาศ เครื่องปรับอากาศ (บางรุ่น บางยี่ห้อ) หุ่นยนต์ดูดฝุ่น เครื่องดูดฝุ่น และอุปกรณ์อื่นๆ ที่ป้องกันเศษฝุ่นละอองขนาดเล็กหลุดลอดออกมานั่นเอง

สำหรับฝุ่นละอองต่างๆ นั้นหลังจากที่มันถูกดูดเข้ามาโดยพัดลมดูดอากาศของเครื่องนั้นๆ แล้ว ก็จะถูกกักโดยแผ่นกรองอากาศ HEPA ไม่ให้มันไหลเวียนกลับออกไปสู่บรรยากาศภายนอกอีกครั้งนั่นเอง

ชนิดของแผ่นกรองอากาศ HEPA
อย่างที่ได้กล่าวไปเมื่อข้างต้นว่า เงื่อนไข หรือสเปคของแผ่นกรองอากาศ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น แผ่นกรองอากาศ HEPA ได้นั้น จะต้องมีความสามารถในการกรองฝุ่นละเอียด ที่มีขนาดที่ใหญ่กว่า 0.3 ไมครอน

แต่อันที่จริงแล้ว แผ่นกรองอากาศ HEPA นั้น มันก็ยังมีรายละเอียด ปลีกย่อยอีกมากมาย โดยทางสหภาพยุโรป (European Union) ได้มีการจำแนกคลาสของแผ่นกรองอากาศ HEPA ในมาตรฐานยุโรป (European Standard) อย่าง EN 1822:2009 ย่อยลงไปอีกกว่า 8 คลาสด้วยกันเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น

  1. E10 Class : ป้องกันฝุ่นได้ 85%
    (ฝุ่นมีโอกาสหลุดลอดผ่านออกไปได้ 15%)
  2. E11 Class : ป้องกันฝุ่นได้ 95%
    (ฝุ่นมีโอกาสหลุดลอดผ่านออกไปได้ 5%)
  3. E12 Class : ป้องกันฝุ่นได้ 99.5%
    (ฝุ่นมีโอกาสหลุดลอดผ่านออกไปได้ 0.5%)
  4. H13 Class : ป้องกันฝุ่นได้ 99.95%
    (ฝุ่นมีโอกาสหลุดลอดผ่านออกไปได้ 0.05%)
  5. H14 Class : ป้องกันฝุ่นได้ 99.995%
    (ฝุ่นมีโอกาสหลุดลอดผ่านออกไปได้ 0.005%)
  6. U15 Class : ป้องกันฝุ่นได้ 99.9995%
    (ฝุ่นมีโอกาสหลุดลอดผ่านออกไปได้ 0.0005%)
  7. U16 Class : ป้องกันฝุ่นได้ 99.99995%
    (ฝุ่นมีโอกาสหลุดลอดผ่านออกไปได้ 0.00005%)
  8. U17 Class : ป้องกันฝุ่นได้ 99.999995%
    (ฝุ่นมีโอกาสหลุดลอดผ่านออกไปได้ 0.000005%)

จากประสบการณ์ที่ผู้เขียนรีวิวสินค้าที่มีความจำใช้ แผ่นกรองอากาศ HEPA พบว่า มีสินค้าน้อยรุ่น น้อยยี่ห้อเอามากๆ ที่จะระบุคลาสของแผ่นกรองอากาศ HEPA ลงไปในผลิตภัณฑ์

การดูแลรักษาแผ่นกรองอากาศ HEPA
เนื่องจากแผ่นกรองอากาศ HEPA ทำมาจากเส้นใยไฟเบอร์กลาส ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการซักล้างด้วยผงซักฟอก หรือน้ำยาใดๆ เพราะมันอาจจะเข้าไปกัดกร่อนเส้นใยไฟเบอร์กลาส หรือส่วนประกอบภายในอื่นๆ ของแผ่นกรองได้ ทางที่ดีควรใช้วิธีการดูดฝุ่น หรือใช้แปรงทำความสะอาดในการปัดฝุ่นที่อยู่ในร่องให้ออกมา ตามด้วยการเคาะเบาๆ ให้ฝุ่นหลุดออกมาจากตัวแผ่นกรอง จะดีกว่า

และถ้าหากเครื่องใช้ไฟฟ้านั้น ถูกใช้งานอย่างสม่ำเสมอ ควรจะเปลี่ยนแผ่นกรองอากาศ HEPA ทุกๆ 1-2 ปี เพื่อให้การกรองอากาศเกิดประสิทธิภาพสูงที่สุด

 

ขอบคุณแหล่งที่มาจาก thanop.com